การออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน ให้ผลคล้ายกับการทำงานของฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งช่วยนำน้ำตาลในเลือดออกไปใช้ที่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
>>ขั้นตอนการออกกำลังกาย
ประกอบด้วย 3ขั้นตอน เหมือนการออกกำลังกายปกติ
1. Warm up
2. Training zone exercise
3. Cool down
>> หลักการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน ยึดตามหลัก FITT เช่นกัน มีรายละเอียดดังนี้
• Frequency :
1. อย่างน้อย 3ครั้ง/สัปดาห์ วันที่หยุดพักไม่ควรเกิน 2วัน
• Intensity :
1. ระดับหนักพอควร (40-59% ของชีพจรสำรอง)
• Time :
1. 30 นาที/วัน หรือ 150 นาที/สัปดาห์
2. สามารถแบ่งรอบสะสมได้ โดยแต่ละรอบควรถึงระดับหนักพอควร อย่างน้อย 10นาที
• Type :
1. การออกกำลังแบบแอโรบิค (การออกกำลังที่มีการใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ทำงานอย่างต่อเนื่องเช่น เดินเร็ว, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ)
2. ** การออกกำลังแบบมีแรงต้าน เช่น ใช้ดัมเบล, ยางยืด, ออกกำลังด้วยเครื่องออกกำลังมีแรงต้าน หากทำร่วมกับการออกกำลังแบบแอโรบิค จะช่วยให้ผลในการควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดียิ่งขึ้น ควรทำ 2 วัน/สัปดาห์ (ไม่ควรทำติดกัน 2วัน) ท่าละ 5-10 ครั้ง และ 3-4 sets
** หลีกเลี่ยงการทำท่าที่ต้องเกร็งค้างไว้และไม่ควรใช้แรงต้านที่มากเกินไป
>> หลักการออกกำลังกายในผู้ป่วยเบาหวาน ยึดตามหลัก FITT เช่นกัน มีรายละเอียดดังนี้
1. สวมรองเท้าที่เหมาะสม
2. ตรวจดูเท้าทุกครั้งหลังออกกำลังกาย
3. หลีกเลี่ยงการออกกำลังในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด
4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในกรณีที่ควบคุมระดับน้ำตาลไม่ได้
5. เช็คระดับน้ำตาลในเลือดก่อนออกกำลัง หากน้อยกว่า 100 mg%
a. ควรทานคาร์โบไฮเดรต 15 g. ก่อน
ตัวอย่างคาร์โบไฮเดรต 15 g.
• ข้าว 1 ทัพพี
• ขนมปัง 1 แผ่น
• แครกเกอร์ 1 ชิ้น
• นม 1 แก้ว
• น้ำผลไม้ครึ่งแก้ว
• แอปเปิ้ล 1 ลูกเล็ก
• ส้ม 1 ลูกเล็ก
อาการสำคัญที่บ่งบอกว่าน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
• เหงื่อออก
• ใจเต้นเร็ว
• มึนงง เวียนศีรษะ
• มือสั่น กระสับกระส่าย
• รู้สึกหิว
• อ่อนเพลีย, ไม่มีแรง
• ปวดศีรษะ
• ตาพร่า
หากมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรปฏิบัติดังนี้
1. ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หากระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ให้ทานน้ำผลไม้ 1กล่อง หรือ นม 1 กล่อง
2. หรือลูกอมทันที ตรวจเช็คระดับน้ำตาลในเลือดอีกครั้ง หลังจาก 15 นาที
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์หัวใจ โทร.1719